เตรียมความพร้อมลดหย่อนภาษี 2566 มีอะไรบ้างที่คุณต้องรู้

ก่อนจะเตรียมความพร้อมเพื่อลดหย่อนภาษี 2566 หลายคนต้องทำความเข้าใจเรื่องที่ยังเข้าใจผิดกันอยู่ก่อน นั่นคือ ยังมีผู้ที่คิดว่า เมื่อคำนวณเงินได้สุทธิแล้วพบว่าไม่ต้องเสียภาษี ก็ไม่ต้องยื่นแบบภาษี ซึ่งในข้อเท็จจริงเมื่อคุณมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่ข้อกำหนดได้ระบุไว้ ไม่ว่าจะต้องเสียภาษีหรือไม่ก็ตาม ทุกคนมีหน้าที่ต้องยื่นแบบภาษี ซึ่งเกณฑ์ขั้นต่ำที่คุณต้องยื่นแบบภาษี คือ เมื่อคุณมีเงินเดือนประจำ 120,000/ปี หรือมีรายได้อื่น ๆ ตั้งแต่ 60,000 บาท/ปีขึ้นไป และการทำความเข้าใจหน้าที่ในการยื่นแบบภาษีคือเรื่องแรกที่คุณต้องเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะไปสู่ความพร้อมด้านอื่น ๆ ต่อไป

ลดหย่อนภาษี 2566 กับเอกสารสำคัญที่คุณต้องรู้จัก

การที่คุณจะทราบได้ว่า คุณต้องเสียภาษีหรือไม่ คุณต้องคำนวณหาเงินได้สุทธิออกมาก่อน ด้วยการนำรายได้ต่อปี มาหักด้วยค่าใช้จ่าย เหลือเท่าไหร่ให้นำมาหักด้วยค่าลดหย่อนภาษี 2566 จึงจะออกมาเป็นเงินได้สุทธิ และถ้าเงินได้สุทธิออกมามีจำนวน 150,000 บาทขึ้นไป คุณมีหน้าที่ต้องเสียภาษี สิ่งที่จะต้องเตรียมความพร้อมลำดับต่อมาคือ การรวบรวมเอกสารเพื่อประกอบการยื่นภาษี

รู้จักหรือยังเงินได้ 8 ประเภท กับเอกสารอ้างอิงข้อมูลรายได้

เอกสารอ้างอิงข้อมูลรายได้ คือ เอกสารที่จะแสดงรายได้ต่อปีของคุณ ซึ่งถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัทที่มีเงินเดือนประจำ คุณจะต้องมีใบทวิ 50 หรือที่เรียกว่าหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งรายละเอียดในเอกสารจะแสดงข้อมูลรายได้ของคุณทั้งปี รวมไปถึงยอดภาษีที่ถูกหักเอาไว้ ยอดเงินสะสมประกันสังคม และยอดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ถูกหักเอาไว้ด้วย แต่ถ้าคุณมีอาชีพอิสระ คุณควรจะมีเอกสารหัก ณ ที่จ่าย ที่ผู้ว่าจ้างได้มอบให้คุณเมื่อมีการจ่ายเงินค่าจ้างเรียบร้อย และสุดท้ายถ้าคุณเป็นผู้ที่มีรายได้มาจากหลายทาง คุณจะต้องแยกประเภทรายได้ของคุณทั้งหมดออกเป็นประเภทเงินได้ที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งมีทั้งหมด 8 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

ลดหย่อนภาษี 2566
  • เงินได้ประเภทที่ 1 เงินได้จากการจ้างแรงงาน เช่น เงินเดือน โบนัส และเงินเบี้ยเลี้ยงต่าง ๆ 
  • เงินได้ประเภทที่ 2 เงินได้จากตำแหน่งหน้าที่ของงานที่ทำ อย่างค่านายหน้า ค่าธรรมเนียม และเบี้ยประชุม เป็นต้น
  • เงินได้ประเภทที่ 3 เงินได้จากค่าลิขสิทธิ์ และทรัพย์สินทางปัญญา
  • เงินได้ประเภทที่ 4 เงินได้จากเงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไร และดอกเบี้ย
  • เงินได้ประเภทที่ 5 เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน หรือเงินจากผลประโยชน์อื่น ๆ 
  • เงินได้ประเภทที่ 6 เงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ เช่น ด้านกฎหมาย, การประกอบโรคศิลปะ, วิศวกรรม, สถาปัตยกรรม, ประณีตศิลปกรรม, การบัญชี และวิชาชีพอื่น ๆ ที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเอาไว้ เป็นต้น
  • เงินได้ประเภทที่ 7 เงินได้จากการรับเหมา ที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญนอกเหนือจากเครื่องมือ
  • เงินได้ประเภทที่ 8 เงินได้ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากเงินได้ประเภทที่ 1-7 ที่ได้กล่าวมา เช่น การขายของออนไลน์, เงินได้จากธุรกิจ, การเกษตร, การอุตสาหกรรม, การขายอสังหาริมทรัพย์ และการขนส่ง เป็นต้น

ซึ่งความสำคัญของเงินได้แต่ละประเภทนี้ จะมีวิธีหักค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน ก่อนที่จะนำยอดที่เหลือไปหักกับค่าลดหย่อนภาษี 2566 นอกจากนี้ การแยกประเภทเงินได้จะช่วยให้คุณเลือกใช้แบบฟอร์มสำหรับการยื่นภาษีได้ถูกต้อง โดยรายได้ที่มีเพียงเงินเดือนอย่างเดียวจะใช้แบบฟอร์ม ภ.ง.ด.91 ส่วนรายได้อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือนจะใช้แบบฟอร์ม ภ.ง.ด.90 และเรื่องสำคัญที่คุณต้องทราบ คือ “เงินได้ประเภทที่ 5-8 หากรวมกันแล้วมีจำนวนเกิน 60,000 บาท จะต้องยื่นแบบครึ่งปี โดยใช้แปบบฟอร์ม ภ.ง.ด.94 ด้วย” 

5 กลุ่มค่าใช้จ่ายควรรู้ เพื่อการลดหย่อนภาษี 2566

ยังมีค่าใช้จ่ายที่นิยมเรียกว่า ค่าลดหย่อนภาษี โดยจะนำมาหักออกหลังจากนำรายได้ต่อปีหักกับค่าใช้แล้ว ซึ่งค่าลดหย่อนภาษี 2566 จะช่วยให้คุณจ่ายภาษีน้อยลง และเหลือเงินมากขึ้น และรายการลดหย่อนภาษีมีอยู่หลายรายการด้วยกัน  ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 กลุ่มดังนี้

  1. กลุ่มค่าใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว ซึ่งครอบคลุมทั้งของผู้มีเงินได้ ภรรยา บุตร และบิดามารดา
  2. กลุ่มประกันชีวิต และประกันสุขภาพ ปัจจุบันสามารถแจ้งใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไปที่บริษัทประกันภัยได้ 
  3. กลุ่มการลงทุนและการออม คุณสามารถนำยอดเงินที่ซื้อกองทุนมาหักลดหย่อนภาษีได้ เช่น กองทุน SSF และ กองทุน RMF เป็นต้น และปัจจุบันสามารถแจ้งใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไปที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ได้เช่นกัน
  4. กลุ่มกระตู้นเศรษฐกิจ ได้แก่ การกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม ที่คุณจะต้องขอหนังสือรับรองการเสียดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารด้วย ซึ่งปัจจุบันสามารถแจ้งใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไปที่ธนาคารได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีค่าลดหยอนพิเศษที่ทางรัฐบาลได้ประกาศใช้เพิ่มเติม เช่น โครงการช้อปดีมีคืน เป็นต้น
  5. กลุ่มเงินบริจาค ได้แก่ ใบอนุโมทนาบุญที่ระบุชื่อของคุณ หรือถ้าหากคุณบริจาคผ่านช่องทาง e-Donation สามารถแจ้งใช้สิทธิลดหย่อนแก่หน่วยงานที่รับบริจาคได้ทันที

จริงอยู่ว่า การยื่นแบบภาษีมีระยะเวลาเผื่อเอาไว้ให้คุณพอสมควร แต่ถ้าคุณไม่เตรียมเอกสารให้เรียบร้อยแต่เนิ่น ๆ เวลาที่กระชั้นเข้ามาอาจทำให้คุณหลงลืมเรื่องการลดหย่อนภาษี 2566 ที่สำคัญไปได้ อย่างการลืมใช้สิทธิลดหย่อนอุปการะบิดามารดา หรือเงินบริจาคที่ไม่ได้ทำประจำทุกเดือน ซึ่งจะทำให้คุณเสียภาษีเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่จำเป็น ดังนั้นวางแผนและสำรวจทุกอย่างให้รอบคอบก่อนการยื่นภาษี เพื่อเป็นการทำหน้าของประชาชนผู้มีรายได้ และเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของตัวคุณเอง