หูอื้อเป็นภาวะที่ได้ยินเสียงเบาลงหรือได้ยินเสียงอู้อี้ อาจเป็นชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ สาเหตุของหูอื้อมีหลากหลาย ทั้งเกิดจากความผิดปกติของหูชั้นนอก หูชั้นกลาง และประสาทหู
หูอื้อจากสาเหตุการอุดตัน
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของหูอื้อคือ การอุดตันในหู ซึ่งอาจเกิดจากสิ่งต่างๆ ดังนี้
- ขี้หู ขี้หูเป็นสารธรรมชาติที่ผลิตโดยต่อมไขมันในช่องหู ทำหน้าที่ปกป้องหูจากสิ่งแปลกปลอมและการติดเชื้อ แต่หากขี้หูสะสมมากเกินไป อาจอุดตันทางเดินหูและทำให้ได้ยินเสียงเบาลงหรือได้ยินเสียงอู้อี้
- น้ำเข้าหู น้ำเข้าหูอาจเกิดขึ้นได้จากการว่ายน้ำ อาบน้ำ หรือว่ายน้ำในสระว่ายน้ำที่มีคลอรีน น้ำที่เข้าไปในหูอาจทำให้เยื่อแก้วหูบวมหรืออักเสบ และทำให้ได้ยินเสียงเบาลงหรือได้ยินเสียงอู้อี้
- เยื่อแก้วหูทะลุ เยื่อแก้วหูเป็นเยื่อบางๆ ที่กั้นระหว่างหูชั้นกลางและหูชั้นนอก หากเยื่อแก้วหูทะลุ อาจเกิดจากอุบัติเหตุ การติดเชื้อในหู หรือว่ายน้ำในน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นจัด
- เนื้องอกในหู เนื้องอกในหูอาจเกิดจากเซลล์เนื้อเยื่อในหูชั้นกลางหรือหูชั้นใน มักพบในผู้สูงอายุ เนื้องอกในหูอาจทำให้เกิดอาการหูอื้อ เวียนศีรษะ และสูญเสียการได้ยิน
หูอื้อจากสาเหตุอื่นๆ
นอกจากสาเหตุการอุดตันแล้ว หูอื้ออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ดังนี้
- การติดเชื้อในหู การติดเชื้อในหูอาจทำให้เกิดอาการหูอื้อ ปวดหู มีน้ำมูกไหล และไข้
- โรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้อาจทำให้เกิดอาการหูอื้อ ปวดหู และเวียนศีรษะ
- โรคหูน้ำหนวก โรคหูน้ำหนวกเป็นภาวะที่ของเหลวสะสมอยู่ในหูชั้นกลาง มักพบในเด็กเล็ก โรคหูน้ำหนวกอาจทำให้เกิดอาการหูอื้อ เวียนศีรษะ และสูญเสียการได้ยิน
- โรคประสาทหูเสื่อม โรคประสาทหูเสื่อมเป็นภาวะที่ประสาทหูเสื่อมลง มักพบในผู้สูงอายุ โรคประสาทหูเสื่อมอาจทำให้เกิดอาการหูอื้อ สูญเสียการได้ยิน และเวียนศีรษะ
- ยาบางชนิด ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ และยาเคมีบำบัด อาจทำให้เกิดอาการหูอื้อเป็นอาการข้างเคียง
หูอื้อกับชีวิตประจำวัน
หูอื้ออาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ที่พบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การได้ยินเสียงดัง การพักผ่อนไม่เพียงพอ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการใช้เครื่องเสียงหูฟังมากเกินไป
- การได้ยินเสียงดัง การได้ยินเสียงดังเป็นเวลานานอาจทำให้เยื่อแก้วหูเสียหายและสูญเสียการได้ยินได้ อาการหูอื้อจึงมักพบในผู้ที่ทำงานในสถานที่ที่มีเสียงดัง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สนามบิน และงานคอนเสิร์ต
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ การพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาท รวมถึงระบบการได้ยินด้วย อาการหูอื้อจึงมักพบในผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
- การดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงหูน้อยลง และส่งผลต่อการทำงานของระบบการได้ยินด้วย อาการหูอื้อจึงมักพบในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์
- การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่อาจทำให้หลอดเลือดหดตัวและส่งผลต่อการทำงานของระบบการได้ยินด้วย อาการหูอื้อจึงมักพบในผู้ที่สูบบุหรี่
- การใช้เครื่องเสียงหูฟังมากเกินไป การใช้เครื่องเสียงหูฟังมากเกินไปอาจทำให้เสียงดังเข้าไปในหูเป็นเวลานาน และส่งผลต่อการทำงานของระบบการได้ยินด้วย อาการหูอื้อจึงมักพบในผู้ที่ใช้เครื่องเสียงหูฟังมากเกินไป
การป้องกันหูอื้ออย่างถูกวิธี ทำตามนี้รอด!
เพื่อป้องกันหูอื้อจากสาเหตุต่างๆ ควรปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงการได้ยินเสียงดังเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องได้ยินเสียงดัง ควรใส่ที่อุดหูหรือหูฟังป้องกันเสียง
- พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบุหรี่
- ใช้เครื่องเสียงหูฟังอย่างระมัดระวัง
แน่นอนว่าในบางครั้งอาการหูอื้อนั้นเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และอาจสายเกินไปสำหรับใครหลายคน แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการหูอื่อนี้สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ โดยทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่กล้าวมาขั้นต้น แก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธีและมีแระสิทธิภาพตามอาการและความต้องการของคุณ